สาวสวยคนหนึ่งที่มีหน้าเป็นม้า (สวยแบบม้า) ที่ชื่อว่าแก้ว ใครๆ ได้เห็นพากันหัวเราะเยาะที่แก้วมีหน้าเป็นม้า สร้างความเสียหายให้กับแก้วมาก มีแต่พวกม้าที่เข้าใจแก้วแม่ปลอบแก้วว่าความสวยงามไม่ได้อยู่ที่หน้าตา แต่อยู่ในจิตใจมากกว่า ถ้าแก้วหมั่นทำความดี ทุกคนจะเห็นความงามของแก้ว
ณ เมืองมิถิลา ท้าวภูวดลกับพระนางนันทาครองเมืองมีโอรสชื่อ พระปิ่นทอง ที่ดื้อมากจนพี่เลี้ยงต่างพากันเอือมระอา
ท้าวภูวดลกับมเหสีหนักใจมากกับโอรสจอมซน พระปิ่นทองมาขอออกไปเล่นว่าวนอกวังและรับปากว่าจะไม่ทำเรื่องเดือดร้อนอีก ท้าวภูวดลจึงให้ไปพร้อมทั้งให้ทหารตามเสด็จมากมาย พระปิ่นออกไปเล่นว่าวนอกวังใกล้ๆกับหมู่บ้านแก้ว ขณะที่แก้วออกไปช่วยแม่เลี้ยงม้า เทวดาเห็นว่าพระปิ่นทองกับแก้วเป็นเนื้อคู่ จึงหาทางให้ทั้งสองได้พบกัน ขณะที่พระปิ่นทองกำลังเล่นว่าว เทวดาก็เนรมิตลมตีว่าวพัดหลุดลอยออกไป
พระปิ่นทองรีบวิ่งตามว่าวที่ลอยออกไป ว่าวตกลงมาบริเวณที่แก้วเลี้ยงม้า แก้วจึงเก็บไว้ พระปิ่นทองเข้ามาขอว่าวคืนพร้อมทั้งพุดจาดูถูกแก้วที่ริอ่านมาเก็บว่าวของตน แก้วเลยไม่ยอมให้ พระปิ่นทองให้ทหารวิ่งตามว่าคืนมาจากแก้ว แก้วรีบนำว่าววิ่งหนีไป พวกทหารตามไป 2-3 คน คือนายสุขกับนายตุ่ย (ใช้กำลังโวยวาย)
พวกม้าเห็นท่าไม่ดีเลยช่วยแก้วเอาไว้ให้หนีพวกทหารได้ ทุกคนสะบักสะบอม พระปิ่นทองเห็นท่าไม่ดีจึงนึกอุบายขึ้นมาได้ พระปิ่นทองของเจรจากับแก้ว ว่าจะให้แก้วแหวนเงินทองแต่แก้วไม่สนใจ พระปิ่นทองเลยโกหกว่าให้ว่าวจะรับเป็นมเหสี แก้วดีใจมากรีบคืนว่าวไป

แก้วรอให้พระปิ่นทองมารับเป็นมเหสี แต่ก็ไม่มาจนผ่ายผอม พ่อกับแม่เริ่มเชื่อ เลยสอบถามชาวบ้านได้ความว่าพระปิ่นทองพูดจริง นางนิ่มกับนายมั่นตัดสินใจพาแก้วเข้าวังเพื่อทวงสัญญา สามแม่ลูกจึงได้เข้ามาอยู่ในวัง ท้าวภูวดลทราบเรื่องจึงกริ้วมาก สั่งประหารสามแม่ลูก
พระนางนันทามาพอดีจึงสอบถามเรื่องราวจนทราบเรื่องและ บอกให้ท้าวภูวดลรักษาสัญญาถ้าพระปิ่นทองพูดจริงต้องรักษาสัญญา พระปิ่นทองบอกว่าพูดเล่นไม่สนใจ ท้าวภูวดลรู้เข้าจึงต้องยอมรักษาสัญญา พระปิ่นทองตกใจมาก จำต้องรักษาสัญญาด้วยการไปรับแก้วเข้าวัง แก้วเล่นตัวไม่ยอมเข้าวัง ถ้าไม่มีวอมารับ
พระปิ่นทองจำต้องส่งวอมารับ แก้วนั่งวอเข้าวังด้วยความยินดีของชาวบ้าน พิธีอภิเษกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พระปิ่นทองอับอายมาก พระนางนันทาเห็นแก้วก็รู้สึกเอ็นดู จัดห้องหับให้แก้ว พระปิ่นทองทำท่ารังเกียจไม่ยอมออกมาพบกับแก้ว ทำให้แก้วไม่พอใจมาก

ท้าวภูวดลหาทางแกล้งแก้วด้วยการให้ไปยกเขาพระสุเมรุให้ได้ภายในเจ็ดวัน ถ้ายกไม่ได้จะถูกประหาร แก้วตกใจมาก แก้วออกเดินทางไป ตามหาเขาพระสุเมรุ แก้วเข้าไปในป่าแล้วอธิษฐานว่าตนเป็น เนื้อคู่พระปิ่นทองขอให้พบเขาพระสุเมรุ แก้วเดินทางไปเจอสัตว์ร้ายในป่าที่จ้องจะมาทำร้าย
ก่อนที่แก้วจะถูกทำร้าย ฤาษีมาพบเข้าและช่วยไว้ พระฤาษีเมื่อได้ทราบเรื่องราวจึงช่วยถอดหน้าม้าให้กลายเป็นสาวสวย พร้อมเสกเรือเหาะและมีดอีโต้วิเศษให้เป็นอาวุธ นางแก้วกราบลาพระฤาษีพร้อมสวมหน้าม้าดังเดิม นั่งเรือเหาะไปจนเจอ เขาพระสุเมรุ
แก้วกำลังจะไปยกเขาพระสุเมรุ ก็พบยักษ์เฝ้าอยู่ ยักษ์บอกว่าแก้วต้องแก้ปริศนาให้ได้ก่อน จึงจะตัดขาไปได้ พร้อมกับให้ปริศนาสามข้อ แก้วคิดปริศนาไม่ออก เลยฉวยโอกาสยักษ์เผลอ ตัดเขาเหาะหนีไปเลย

ก่อนออกเดินทางพระปิ่นทองสั่งนางแก้วว่าถ้ากลับมานางยังไม่มีลูกจะต้อง ถูกปรหาร แก้วคิดหาวิธีมีลูกกับพระปิ่นทอง แก้วคิดอะไรได้ นางแก้วจึงนั่งเรือเหาะไปดักรอพระปิ่นทองระหว่างทางพร้อมทั้งถอดหน้าม้าออก พระปิ่นทองได้เจอแก้วที่ถอดรูปแล้ว ถึงกับตะลึงงัน
พระปิ่นทองได้เห็นงานแก้วจึงนึกรัก สั่งให้ทหารตามมาพบ พระปิ่นทองขอแก้วเป็นชายา แก้วถามถึงมเหสีพระปิ่นทองบอกว่ามีหน้าเป็นม้า น่าเกลียด แก้วรู้สึกไม่พอใจ จึงหาทางกลั่นแกล้งพระปิ่นทองจนพอใจ แก้วยอมอยู่กินกับพระปิ่นทอง

พระปิ่นทองกลับมา นางแก้วแกล้งถามว่าไปเจอสาวที่ไหนมาหรือเปล่า พระปิ่นทองรีบโกหกว่าไม่เจอใคร พร้อมทวงสัญญาว่าแก้วจะต้องตั้งครรภ์ แก้วรีบแสดงตัวว่าตั้งครรภ์ สร้างความดีใจให้กับพระนางนันทา พระปิ่นทองไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป จึงคิดหนีไปต่างเมืองโดยไม่ยอมให้แก้วไปด้วย
พระปิ่นทองถูกพวกยักษ์เล่นงานจับตัวเอาไว้ ฝ่ายนางแก้วได้คลอดลูกออกมาเป็นชาย นางแก้วคิดจะไปหาพระปิ่นทองจึงได้ฝากลูกไว้กับฤาษีระหว่างทางที่ผ่าน ฤาษีตั้งชื่อให้เด็กว่า "พระปิ่นแก้ว" พระปิ่นทองหายไป สร้างความเป็นห่วงให้ท้าวภูวดลและมเหสีเป็นอันมาก แก้วรู้เข้ารู้สึกเป็นห่วง แก้วไปถามฤาษี ฤาษีทราบด้วยญาณว่า พระปิ่นทองตกอยู่ในอันตรายจึงบอกนางแก้ว นางแก้วจึงนั่งเรือเหาะไปช่วยพระปิ่นทอง โดยไม่ให้พระองค์รู้ แก้วจึงแปลงตัวเป็นชาย พระปิ่นทองถูกจับตัวไปให้ท้าวพาลราชกิน แต่แก้วได้แปลงตัวเป็นชายเข้ามาช่วย

แก้วบอกให้พวกยักษ์ยกให้พระปิ่นทองครองเมืองแทนมิฉะนั้นจะพังเมือง พวกยักษ์หลงเชื่อจนยอมตาม พระปิ่นทองทำท่าจะสนใจลูกสาวยักษ์สองคนคือ เจ้าหญิงสร้อยสุวรรณและเจ้าหญิงจันทร แก้วรู้เข้าจึงรีบไปตีสนิท และพาไปหาฤาษี แก้วพาสองเจ้าหญิงมาหาฤาษีและบอกเรื่องราวที่แท้จริงว่าตนเป็นใคร
เจ้าหญิงทั้งสองได้รู้เรื่องราวของแก้ว และสัญญาจะเก็บเป็นความลับ ก่อนที่จะกลับไปสู่เมืองยักษ์ แก้วพาสองธิดากลับมายกให้พระปิ่นทอง พระปิ่นทองเริ่มคิดถึงบ้าน จึงชวนสองธิดายักษ์กลับเมืองมิถิลา แก้วรู้เข้ารีบสวมหน้าม้าขึ้นเรือเหาะไปดักหน้า
แก้วมารอพระปิ่นทองพร้อมกับอุ้มลูกที่ฤาษีตั้งชื่อไว้ว่าพระปิ่นแก้ว พระปิ่นทองหาว่าแก้วหลอกว่าเป็นลูกตนแต่เมื่อเห็นแหวนที่ตนให้ไว้ก็พูดไม่ออก กล่าวถึงท้าวกายมาต ที่เป็นญาติกับท้าวพาลราชที่ถูกแห้วสังหาร เมื่อทราบเรื่องก็เกิดความแค้นยกไพร่พลยักษ์มาล้อมเมืองมิถิลา

พวกยักษ์เริ่มบุกเมือง แก้วเป็นห่วงบ้านเมืองและพระนางนันทา จึงได้แปลงกายเป็นชายออกสู้กับยักษ์ทันที แก้วสู้กับท้าวกายมาต แต่อีโต้วิเศษทำอะไรไม่ได้ แก้วกำลังจะเสียทีท้าวกายมาต
แก้วเหาะข้ามหัวทำให้มนต์ยักษ์เสื่อม และฆ่าท้าวกายมาตได้สำเร็จ ท่ามกลางความยินดีของชาวมิถิลา พระปิ่นทองเริ่มสงสัยว่า ชายหนุ่มที่มาช่วยต้องเป็นแก้วแน่ๆ
พระปิ่นทองตามไปงอนง้อนางแก้ว แต่แก้วก็ยังเล่นตัว จนพระปิ่นทองทำท่าจะเชือดคอตายแก้วจึงยอมถอดหน้าม้า สร้างยินดีให้กับทุกคน พิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นอย่างเอิกเกริก ไม่นานแก้วก็ตั้งครรภ์ ท้าวประกายกรดรู้ข่าวท้าวประกายมาตถูกฆ่าตายก็แค้น คิดจะบุกเมืองมิถิลา
ท้าวประกายกรดบุกเมืองมิถิลา ประชาชนแตกตื่นกันทั่ว พระปิ่นแก้วยกทัพไปสู้กับพวกยักษ์แต่สู้ไม่ได้ ต้องถอยร่น แก้วจำต้องออกไปสู้กับยักษ์ ทั้งๆที่ตั้งครรภ์ แก้วที่ท้องแก่สู้กับท้าวประกายกรด ถูกท้าวประกายกรดถีบ แก้วเจ็บท้อง คลอดพระธิดาออกมา 3 องค์ ท้าวประกายกรดตกใจมากที่รู้ว่าแก้วเป็นหญิง
แก้วใช้ผ้าเปื้อนเลือดฟาดเข้าใส่ ทำให้มนต์ยักษ์เสื่อม ท้าวประกายกรดถูกฆ่าตาย เมืองมิถิลากลับสู่ความสงบตั้งแต่นั้นมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น